29, May 2025
สมเด็จฮุนเซ็น สุดเด็ดขาด หลังทหารเขมรเสียชีวิตยิงปะทะทหารไทย

สมเด็จฮุนเซ็น

สมเด็จฮุนเซ็น โพสต์แสดงความเสียใจ หลังทหารกัมพูชาเสียชีวิต

วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ได้เกิดเหตุปะทะระหว่าง ทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณ ชายแดนช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวยังไม่มีการแบ่งเขตแดนอย่างเป็นทางการ นำไปสู่ความสูญเสียของฝ่ายกัมพูชา โดยมีทหารเสียชีวิต 1 นาย

หลังเหตุการณ์ดังกล่าว สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของ Suon Ron ผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งระบุว่า เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในพื้นที่ซึ่งควรเป็นพรมแดนแห่งมิตรภาพและสันติภาพ

ก่อนอื่น ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และขอร่วมไว้อาลัยกับครอบครัวของ พลทหารเอก ซวน รอน (Suon Ron) ผู้เสียชีวิตจากการถูกโจมตีโดยกองกำลังทหารผู้รุกราน

ชายแดนแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา ไม่ควรมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ข้าพเจ้าขอประณามอย่างรุนแรงต่อบุคคล หน่วยงาน หรือกลุ่มใดก็ตามที่ตัดสินใจดำเนินการรุกรานในลักษณะเช่นนี้ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเหตุการณ์รุกรานช่วงปี 2008 ถึง 2011 ที่ปราสาทพระวิหาร

ข้าพเจ้าไม่ต้องการเห็นการต่อสู้ใด ๆ เกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าเห็นชอบกับการตัดสินใจของรัฐบาลในการส่งกำลังทหารและอาวุธหนักไปยังชายแดน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการป้องกันตัวเองในกรณีที่มีการรุกรานเพิ่มเติม

ข้าพเจ้าหวังว่าการเจรจาที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ระหว่างผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองประเทศ จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดี และขอให้ไม่มีความตึงเครียดตามแนวชายแดนทั้งหมด ซึ่งอาจส่งผลให้ความร่วมมือในด้านอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศต้องหยุดชะงัก

ข้าพเจ้าขอวิงวอนพี่น้องร่วมชาติ โปรดอย่าทำให้ความขัดแย้งนี้ขยายตัวจนกลายเป็นการเกลียดชังทางเชื้อชาติ และขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลและกองทัพของทั้งสองประเทศ

เราทุกคนเกลียดสงคราม แต่เราไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องทำสงครามเพื่อต่อต้านการรุกรานจากต่างชาติ เหมือนที่เราเคยเผชิญระหว่างปี 2008 ถึง 2011 โดยใช้กลยุทธ์สามแนวทาง ได้แก่ การทหาร การทูต และกระบวนการทางกฎหมาย

 

เปรียบเทียบกับเหตุการณ์ปราสาทเขาพระวิหาร ปี 2551–2554

สมเด็จฮุนเซ็นเปรียบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ การบุกรุกบริเวณปราสาทเขาพระวิหาร ระหว่างปี 2551–2554 โดยชี้ว่า การกระทำครั้งนี้คล้ายคลึงกัน และถือเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ พร้อมประกาศชัดว่า “ผมขอประณามบุคคลหรือชนชั้นใดก็ตามที่อยู่เบื้องหลังการรุกรานครั้งนี้”

ส่งทหารและอาวุธหนักเข้าชายแดน เตรียมพร้อมหากมีการรุกรานซ้ำแม้สมเด็จฮุนเซนจะย้ำว่าไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งลุกลามเป็นสงคราม แต่ก็แสดงความเห็นชอบกับการที่รัฐบาลกัมพูชา ส่งกำลังทหารและอาวุธหนัก ไปประจำชายแดน เพื่อเตรียมความพร้อมหากมีการบุกรุกเพิ่มเติม

หวังผลการเจรจาระหว่างสองกองทัพจะนำไปสู่ความสงบสมเด็จฮุนเซนแสดงความหวังว่า การเจรจาระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศ ที่จะเกิดขึ้นในวันถัดไปจะช่วยลดความตึงเครียด และไม่ส่งผลกระทบต่อความร่วมมือในด้านอื่น ๆ ระหว่างไทยและกัมพูชา

“ขอให้ประชาชนชาวกัมพูชาอย่าใช้ความขัดแย้งนี้เป็นเครื่องมือในการเหยียดเชื้อชาติ และขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาลและกองทัพของทั้งสองประเทศ ที่จะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม”

 

ย้ำ 3 แนวทาง: การทูต ทหาร และกฎหมาย

ท้ายที่สุด สมเด็จฮุนเซนกล่าวอย่างหนักแน่นว่า กัมพูชาไม่ต้องการสงคราม แต่หากถูกรุกรานก็จำเป็นต้องลุกขึ้นต่อสู้ โดยจะยึด แนวทาง 3 ประการ ได้แก่ การทูต การทหาร และทางกฎหมาย ในการแก้ไขปัญหาเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ asssem

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *